top of page
Search
Writer's pictureBWi Official

จากวิสัยทัศน์ที่แตกต่างของผู้นำ สู่ตัวอย่างธุรกิจที่ยั่งยืนระดับโลก

Updated: Feb 3, 2021


เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า วิสัยทัศน์ของผู้นำส่งผลต่อการเติบโต และแนวทางในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยผู้นำที่ดี คือผู้ที่สามารถสร้างการเติบโต สร้างการบริโภคให้มากเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับองค์กร แต่การเป็นผู้นำที่ดีกว่า คือผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง ดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างคุณค่าแก่ผู้คนในสังคม ผลลัพธ์ก็คือธุรกิจจะได้รับการยอมรับ และได้รับการสนับสนุนจากผู้คนในสังคม จะเห็นได้จาก Patagonia แบรนด์เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์กีฬากลางแจ้ง (Outdoor) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากว่า 40 ปี จนได้รับรางวัล Champions of the Earth จากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งองค์การสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme) ในปี พ.ศ. 2562

.

Patagonia ก่อตั้งโดย Yvon Chouinard นักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้ชื่นชอบการปีนเขา และผูกพันกับธรรมชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 Yvon ต้องการสนับสนุนให้ทุกคนได้ผจญภัย และมีความสุขกับธรรมชาติ เหมือนที่เขาเป็น จึงได้ก่อตั้ง Patagonia ขึ้นมา เพื่อผลิตเครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ผจญภัย โดยได้ประกาศว่า ตนเองไม่ใช่นักธุรกิจ และไม่สนใจในการทำกำไรสูงสุด เพียงแต่ใช้กำไรเป็นเครื่องมือในการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักเท่านั้น นับเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญต่อคุณค่าหลักขององค์กร (Business Core Value) ก่อนผลกำไรสุทธิ (Bottom Line Profits) เหมือนการดำเนินธุรกิจแบบเดิม

.

Yvon ตระหนักเสมอว่าธุรกิจที่เขาทำมีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อม จึงได้คิดค้นนวัตกรรม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทนทาน และไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ โดยดำเนินธุรกิจ ภายใต้พันธกิจใหม่ “Patagonia is in business to save our home planet.” เริ่มต้นด้วยการคิดค้นหมุดปีนผาที่ไม่ทำลายร่องหิน ซึ่งใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนากว่า 2 ปี และพัฒนากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างการผลิตสินค้าด้วยฝ้ายออร์แกนิก 100% และการใช้วัตถุดิบที่มาจากวัสดุรีไซเคิลถึง 70% ตลอดจนแก้ไขปัญหาการบริโภคเกินจำเป็น และขยะสิ่งทอ (Textile Waste) โดยการสร้างแคมเปญ Worn Wear สอนให้ลูกค้าซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้ลูกค้านำผลิตภัณฑ์ Patagonia มาให้พนักงานซ่อมแซมโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย โดยในปีที่ผ่านมามีการใช้บริการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ไปถึง 40,000 ชิ้นที่ศูนย์ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา

.

หลักในการดำเนินธุรกิจของ Yvon เป็นการคำนึงถึงผลลัพธ์ในระยะยาว มุ่งเน้นไปยังสิ่งที่ถูกต้องและคำนึงถึงโลกก่อนเสมอ แม้บางครั้งการตัดสินใจเลือกทางที่ถูกต้อง จะเป็นการลงทุนสูงถึงเท่าตัว แต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะสร้างผลตอบแทนคืนมาให้ธุรกิจแล้ว ยังส่งผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวอีกด้วย ซึ่งทำให้เห็นว่า Yvon มีหลักการคิดที่ดี และสร้างการเติบโตให้กับ Patagonia อย่างแท้จริง จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตเฉลี่ยในแต่ละปีที่มี 3 - 8% และยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 540 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา Patagonia ก็มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะเป็นบริษัทที่ต่อต้านแนวคิดบริโภคนิยม (Consumerism) การสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม (Environmental Causes) และยึดมั่นในการทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม (Fair Trade) ก็ตาม

.

Patagonia ได้ตั้งเป้าหมายในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต และใช้วัตถุดิบที่มาจากวัสดุรีไซเคิล 100% ภายในปี พ.ศ. 2564 และ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 Patagonia จะบริจาคเงินคิดเป็น 1% ของรายได้ให้กับองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทุกปี แสดงให้เห็นว่า แม้สิ่งที่ Patagonia ทำมาจนถึงปัจจุบัน จะได้รับการยกย่องและชื่นชม แต่ Patagonia ก็ยังไม่หยุดคิดค้น และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมอยู่เสมอ

.

Patagonia จึงเป็นธุรกิจที่สามารถ “สร้าง” ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับการช่วย “แก้ไข” ปัญหาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยกัน ถือเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก โดยมีผู้นำที่คิดต่าง กล้าที่จะลงมือทำ และยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน พิสูจน์ให้เห็นว่า ธุรกิจที่ดีกว่า คือธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรควบคู่ไปกับการทำความดีได้อย่างยั่งยืน

.

Analyzed by BRANDigest

.


469 views

Comments


bottom of page